วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

มรดกโลก :: ปราสาทฮิเมจิ ประเทศญี่ปุ่น

ปราสาทฮิเมจิ
บทนำ
          ผู้คนเรียกขานกันว่าปราสาทนกกระสาขาว เพราะปราสาทนั้นดูราวนกกระสาเอนกายนอนด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผยบนริมฝั่งแม่น้ำเซ็มบางาวะ (Semba-gawa) ปราสาทฮิเมจิโจ มีขนาดใหญ่โต และประณีตตระการตาที่สุดในบรรดาปราสาทยุคกลาง 12 แห่งของญี่ปุ่นท่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนทุกวันนี้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองฮิเมจิถูกถล่มพินาศ แต่ปราสาทนกกระสาขาวไม่ปรากฏแม้แต่ริ้วรอยขีดข่วนและยังคงสภาพเดิมไว้ได้ทุกประการ 

          บริเวณที่ตั้งปราสาทมีการสร้างกำแพงปราการและคูน้ำล้อมรอบตั้งแต่ปี 1333 ส่วนตัวปราสาทนั้นสร้างขึ้นในภายหลังเมื่อปี 1580 โดยโตโยะโตมิฮิเดโยชิ ต่อมาในปี 1681 อิเคดะ เทรุมาสะ บุตรเขยของโชกุนโทกุงาวะ อิเอยะสุ ได้บูรณะขยายตัวปราสาทให้มีขนาดเช่นในปัจจุบัน ปราสาทในยุคนี้เป็นทั้งที่มั่นทางทหารและศูนย์กลางการบริหารปกครอง ด้วยเงินสนับสนุนจากโชกุน เทรุมาสะจึงได้ออกแบบปราสาทฮิเมจิโจโดยรวมการป้องกันทางทหารและความงามทางศิลปะเข้ากันได้อย่างงดงามแล้ว 

ที่ตั้งและภูมิประเทศ

          ฮิเมจิ (Himeji) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหวางภูมิภาคคันไซ จังหวัดเฮียวโกะ เป็นที่ตั้งของมรดกอันล้ำค่าของประเทษญี่ปุ่นและของโลกมานานนับพันปีจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

Photobucket - Video and Image Hosting

          ปราสาทฮิเมจิ (姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิจังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก



ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์
 
          เมื่อปี 1346 อากามัตสึ ซาดาโนริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมจิที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมูระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง
ปี 1580 โทโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้น ดำเนินการโดยคุโรดะ โยชิทากะ
หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี 1601 โทกุงะวะ อิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมจิให้แก่อิเกะดะ เทะรุมะสะุ อิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618
เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของโทซามะ ไดเมียว ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซากาอิ ทาดาซุมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะ เทรุมาสะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป
ปราสาทฮิเมจิถูกทิ้งระเบิดในปี 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย
ผู้สร้างและอายุสมัย
ปรากฏหลักฐานการสร้างในปีค.ศ. 1346 ท่านเจ้าเมืองโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ผู้ปกครองดินแดนส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ได้สร้างกำแพงปราสาทเป็นแม่แบบซึ่งกลายเป็นรูปแบบของปราสาทฮิเมจิ-โจ (Himeji-jo)ในปัจจุบัน ในยุคเริ่มต้นของสมัยเอโดะ ปราสาทต้องความเสื่อมโทรมลงอย่างมาก และได้รับการปฏิสังขรณ์อยู่นานกว่า 9 ปี ถึงกลับมามีความสมบูรณ์ และปรากฏความงดงามดังที่เห็นในปัจจุบัน 

รูปแบบศิลปะและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม

ไฟล์:Himejijou castle grounds.jpg

          ปราสาทฮิเมจิเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท
          จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับ
เขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน


แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
หอคอยอ่าวโกเบ มีความสูงถึง 108 เมตร สวยงามไปด้วยแสงไฟที่สว่างขึ้นในยามเย็น ตรงข้ามกันคืออ่าวโกเบ บ่งบอกถึงความก้าวหน้าใหม่ๆ ของเมืองริมฝั่ง ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบวิวยามค่ำคืนได้เป็นจำนวนมาก
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เป็นสถานที่เที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกแห่งเพิ่มขึ้น ที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่งคือ
ปราสาทโอซาก้า ครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1586 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปัจจุบันเป็นป้อมปราการสูงห้าชั้น จำลองแบบจากของเดิม เก็บรักษาศิลปะวัตถุโบราณหลายชิ้น ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโทโยโทมิและโอซาก้าในอดีต
เมืองนะคะโนะชิมะ เป็นเมืองศูนย์กลาง ตั้งอยู่บนพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำขนาดเล็กบริเวณแม่น้ำโยโดะ มีศาลเจ้าเท็มมังหงุ ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับมิจิซะเนะ ซุงะวะระ นักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ใกล้กันนั้นเป็นถนนช้อปปิ้ง เท็นจินบะชิ ที่เจริญก้าวหน้ามาได้ยาวนาน ก็เพราะเหล่านักแสวงบุญแลนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนยังศาลเจ้าท้องถิ่นนี้นั่นเอง ทางเดินที่เต็มไปด้วยศูนย์การค้า พอจะทำให้เห็นได้บ้างถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนท้องถิ่น สำหรับแหล่งบันเทิงและย่านช้อปปิ้ง พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องแวะมายัง ย่านอุเมดะและ ย่านนัมบะ ที่มีสถานีรถไฟ และศูนย์การค้าใต้ดินที่ทันสมัยอยู่จำนวนมาก สำหรับนักจับจ่ายซื้อของ  และนักชิมอาหาร “คุยดะโอเระ” ถนนนักชิมที่มีชื่อเสียงสมคำเล่าลือ ที่ว่าโอซาก้าเป็นเมืองสำหรับนักชิมอย่างแท้จริง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ยากิ-นิกุ (เนื้อย่าง) ฟุกุ-นาเบะ (ปลาปักเป้ากระทะร้อน)  ซูชิ และ ทาโกะ-ยากิ (ปลาหมึกปิ้ง)
  
ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทมีความงดงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้น เดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานชมซากุระ มีการบรรเลงเครื่องดนตรีโกโตะ (จะเข้ญี่ปุ่น) และกลองไทโคะด้วย
          เทศกาลโอฮานามิ หรือเทศกาลชมดอกซากุระ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอด
กันมาตั้งแต่สมัยเฮอันและนิยมทำสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน
 ซากุระจะเริ่มบานจากทาง
ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น
 คือ โอะกินะวา ไล่ขึ้นมาถึง ฮอกไกโด เหนือสุดของญี่ปุ่น
จะบานราว ๆ ต้นเดือนพฤษภาคม จะมีการสำรวจต้นซากุระ
 ตามที่ต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น 
แล้วประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดที่ซากุระจะบานเส้นที่ลากเชื่อมจุดที่พยากรณ์ว่า
ซากุระจะบานในวันเดียวกัน เราเรียนกว่า "ซากุระเซนเซน" (
Sakura Zensen)

ของที่ระลึก
แหล่งชอปปิ้ง และสินค้าที่ได้รับความนิยม
          ร้านค้าและแหล่งจำหน่ายสินค้าต่างๆ โดยทั่วไป เปิดทำการวันเสาร์วันอาทิตย์และวันหยุดราชการอื่นๆ ด้วย นอกเหนือจากเปิดทำการตามปกติในวันธรรมดา ร้านเปิดเวลา 10.00 น.-20.00 น. อย่างไรก็ดี ห้างสรรพสินค้าจะปิดทำการในวันธรรมดา 1 วันต่อสัปดาห์ และวันหยุดของห้างสรรพสินค้าจะไม่ตรงกันทุกห้าง ร้านค้าของประเภทสินค้าพิเศษบางร้านอาจจะไม่เปิดขายใน วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการก็ได้ โปรดสังเกตว่า ห้างสรรพสินค้ามักจะปิดห้างเร็วกว่าร้านค้าอื่นๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง (ราวๆ 19.00 น.)

        การช้อบปิ้งในญี่ปุ่น ซึ่งมีตั้งแต่ศิลปวัตถุ แบบประเพณีนิยมของญี่ปุ่น ไปจนถึงสินค้าไฮ-เทคสำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่เอี่ยมล่าสุด และหากท่านต้องการคำแนะนำว่าน่าจะซื้ออะไรดี โปรดอ่านข้อความต่อไปนี้ดู

         - เครื่องสำอางค์ สาวๆ ไปญี่ปุ่นไม่ควรพลาดการเครื่องสำอางค์ ร้านขายเครื่องสำอางค์ที่ใหญ่ที่สุด ในญี่ปุ่น ห้างสรรพสินค้าโอะดะคิว (Odakyu Department Store) สาขาชินจุกุ (Shinjuku) ห้างนี้เปิดโฉมใหม่ เมื่อวันที่ 23 เดือนกันยายน 2008 มีแผนกขายเครื่องสำอางค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แบ่งแยกเป็น 5 แผนกตามไลฟ์สไตล์ มีทั้งหมดกว่า 100 ยี่ห้อ ทางเดินกว้างขวาง ช้อปปิ้งได้สะดวกสบาย ที่ชินจูกุแห่งนี้ เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในการเพลิดเพลินกับการช๊อปปิ้ง อย่างจุใจ
         - กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดีโอแบบดิจิตอลรุ่นต่างๆ เป็นสินค้าล่าสุดที่น่าซื้อ มากและกล้องส่องทางไกลตลอดจนอุปกรณ์และเลนส์ต่างๆในการถ่ายรูปมากมาย
         - เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวีขนาดจิ๋ว เครื่องเล่นซีดี เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเครื่องเล่นวีดีโอเทป โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นบันทึกเทป วิทยุสเตริโอและไฮ-ไฟ นาฬิกาแบบดิจิตอล เครื่องคิดเลขขนาดจิ๋ว จะหาซื้อได้ทั่วไปในญี่ปุ่นสินค้าเหล่านี้ทุกชิ้นมีชื่อเสียงและคุณภาพสูง
         - นาฬิกา นาฬิกายี่ห้อ เซย์โก Seiko หรือซิติเซ็น Citizen เป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี อีกทั้งนาฬิกาปลุกรูปทรงการ์ตูนต่างๆ น่าซื้อมาก
         - ไข่มุก มีขนาดแตกต่างมากหลากหลายด้วยสี รูปร่าง ขนาด และราคาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของสี ขนาด และความมันวาวเป็นสำคัญ
         - ศิลปหัตถกรรม สินค้าพื้นเมืองของญี่ปุ่นประเภทนี้ เหมาะเป็นของที่ระลึก ซื้อติดมือกลับบ้าน จะมีตามแหล่งท่องเที่ยวแทบทุกแห่งซึ่งผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบที่อื่นๆ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดการสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ของชาวญี่ปุ่นที่สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
         - เครื่องจักสาน ต้นไผ่มีขึ้นอยู่ทั่วไปทุกภาคในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมใช้ไม้ไผ่มาผลิตเป็นเครื่องตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ในครัวเรือนกันมาก
         - ตุ๊กตา ตุ๊กตาญี่ปุ่นมีรูปแบบแตกต่างกันมากมายหลายชนิด สะท้อนให้เห็นภาพของภูมิหลังในชนบทหหรือท้องถิ่น จะมีจำหน่ายตามเมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ เช่น เกียวโต
         - พัด พัดด้ามจิ้ว ชนิดที่ใช้ในการฟ้อนรำแบบญี่ปุ่น หรือใช้ประดับมีความสะดุดตาน่าสนใจ ด้วยวิธีออกแบบและสีสันชุดกิโมโนด้วยฝีมือการย้อม การปัก และการทอที่เยี่ยมยอดซึ่งเป็นสินค้า ชั้นดีราคาสูง ย่านกินซ่า หรือย่านโรปปองหงิในโตเกียว จะเป็นถนนที่มีห้างสรรพสินค้ามากมายให้เดินแวะซื้อสินค้าชั้นดีจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับการจับจ่ายได้ทั้งวัน บางแห่งมีมุมสินค้าปลอดภาษี หรือมีการยกเว้นภาษีผู้บริโภคสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งสามารถขอคืนภาษีผู้บริโภค ณ ที่จ่ายได้โดยติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือแผนกของกำนัลของแต่ละห้าง
         - ย่านจับจ่ายสินค้าใต้ดิน ย่านเดินซื้อของใต้ดินเหล่านี้จะอยู่ใกล้สถานีรถไฟใหญ่ๆ ใต้ตึกใหญ่ๆ ในย่านชุมชนของเมือง หากต้องการทราบรายละเอียด ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานศูนย์ข่าวสาร ไอ เซ็นเตอร์ที่ใกล้ที่สุด
         - ร้านค้าสินค้าพิเศษเฉพาะอย่าง ร้านค้าประเภทนี้ จะพบได้ตามย่านสินค้าหรูหราของเมืองใหญ่ๆ มีของที่น่าซื้อน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่เครื่องเขียนไปจนถึงเสื้อผ้าราคาแพง ร้านคอนวีเนียนสโตร์และเครื่องขายของอัตโนมัติ มีจำหน่ายตั้งแต่นิตยสาร แปรงสีฟัน อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มร้อนเย็นและอื่นๆ อีกมากมาย
           - Discount Shop มักตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟและชุมชนจอแจต่างๆ เป็นร้านที่ลดราคาสินค้าเพื่อเน้นการขายปริมาณมาก มีทั้งอาหารของใช้ประจำวัน ของที่ระลึกและอื่นๆ บางแห่ง ราคาเพียง 100 เยนต่อชิ้น
         - ซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคาสินค้าค่อนข้างถูกกว่าในห้างสรรพสินค้า หากมีเวลามาก ก็สามารถจะเดินชมสรรพสิ่งของที่วางโชว์บนชั้นวางสินค้าได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องใช้ในการปรุงอาหาร และสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย ร้านซุเปอร์มาร์เก็ตเหล่านี้ มีสาขาเครือข่ายมากมายทั่วประเทศ ได้แก่ ไดเอย์เชย์ยุ จัสโก้ และ อิโตโยะกะโด เป็นต้น
         - ตลาดต่อรองราคาได้ ในเมืองใหญ่ๆ ร้านค้าจะมีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อตั้งแต่กะทะทอดอาหารไปจนถึง เครื่องเล่นสเตอริโอ ในราคาขายส่ง ย่านชินจุกุ และอิเคะบุขุโร่ะในโตเกียวมีสินค้าราคาถูก คือกล้องถ่ายรูปดิจิตอล และเครื่องเสียง ย่านอะคิฮาบาระ ในโตเกียว และย่านนิบปอมบาฉิ ในโอซาก้า เป็นแหล่งสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องคอมพิวเตอร์ ย่านทซึคิหยิ และโอคะจิมะจิในโตเกียวเป็นแหล่งสินค้าอาหารและสินค้าเบ็ดเตล็ดราคาถูก

สรุป
ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทที่มีความงดงาม ด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของปูนปลาสเตอร์สีขาวที่ปรากฏ ทำให้มองราวกับนกกระยางที่กำลังเต้นรำ และสยายปีก นับว่าเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงซึ่งเรียกว่า ชิราซากิ-โจ” (Shirasagi-jo) หรือ ฮาคุโระ-โจ” (Hakuro-jo) ส่วนหนึ่งได้รับความเสียหายจากช่วงสงคราม และจากภัยพิบัติ โครงสร้างทั้ง 74 โครงสร้างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวอาคาร และประตู ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น

บรรณานุกรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น